วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

วิเคราะห์ราคาทองคำ


หลายๆคนที่เคยดูข่าวเศรษฐกิจคงเคยได้ยินผู้สื่อข่าวกล่าวถึงราคาทองคำอยู่บ่อยๆหากจะพูดถึงสภาพเศรษฐกิจของประเทศใดประเทศหนึ่ง นั่นก็เพราะราคาของทองคำทั้งในตลาดโลกถือเป็นสิ่งที่หนึ่งที่ใช้บอกสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของโลกหรือประเทศได้ นั่นเพราะทองคำถูกใช้เป็นสื่อกลางของการแลกเปลี่ยนเงินตราหลายๆสกุล นอกจากนี้ทองคำยังถูกใช้เพื่อเป็นหลักประกันไว้เป็นทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศด้วย เนื่องจากทองคำมีมูลค่าในตัวเองซึ่งแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเปลี่ยนไปอย่างไรมูลค่าของทองคำก็ยังคงอยู่ไม่สูญหายไปไหนนั่นเอง

ปกติแล้วราคาของทองคำจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งราคาทองคำในวันนี้หลังจากปิดตลาดแล้ว นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากราคาทองคำยังคงลงอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ นักลงทุนควรชะลอการลงทุนในตลาดทองคำและคอยจับตามองราคาทองให้ดี

รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐ หรือ FOMC  ของวันที่ 16-17 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา รายงานว่าราคาของคำในตลาดโลกมีราคาต่ำลง เพราะราคาทองคำนั้นได้รับผลกระทบจากปัญหาของเงินสกุลยูโรที่อ่อนตัวลงจากอัตราเงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มยูโรในช่วงเดือนธันวาคมเอง ซึ่งลดลงไปอยู่ที่ -0.2%  ซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้านั้น ทั้งนี้แม้ว่าธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB จะดำเนินการตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่แล้วก็ตาม

นักวิเคราะห์จึงได้แนะนำให้นักลงทุนที่ถือทองคำไว้เพื่อเกร็งกำไร ควรหรืออาจจะทำการขายทองคำออกไปในตลาด เพื่อลดความเสี่ยงจากราคาทองคำที่ต่ำลงเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มยูโร และได้แนะนำว่านักลงทุนที่ต้องการเกร็งกำไรอาจจะรอซื้อทองคำเมื่อราคาของทองคำลดต่ำลงกว่านี้จนถึงจุดอิ่มตัวและรอจังหวะที่ราคาทองคำจะเริ่มดีดตัวขึ้น ซึ่งคาดการณ์ว่าราคาที่ควรจะเริ่มซื้ออยู่ที่ประมาณ 1,210-1,198 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และจะอยู่ในราคานี้เป็นเวลาระยะสั้นๆ จึงทำการเริ่มซื้อทองคำมาเก็บไว้ แต่ถ้าหากราคาทองคำในตลาดโลกหลุดราคาประมาณ 1,210-1,198 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปและนักลงทุนรู้สึกว่าไม่สามารถรับความเสี่ยงของภาวะราคาทองคำตกต่ำได้ ประมาณการณ์ไว้ที่บริเวณ 1,185 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำว่าชะลอการเข้าสะสมทองคำออกไปก่อน เพื่อรอดูการตั้งฐานของราคาทองคำใหม่อีกครั้งหนึ่งก่อนทำการลงทุน

อ่านบทวิเคราะห์ราคาทองคำ แน้วโน้มราคาทองคำ และเช็คดูราคาทองคำแบบอัพเดทกันทุกวินาที พร้อมราคาทองคำย้อนหลังได้ที่ www.gcap.co.th